[สรุป] อาชีพ Producer : สะท้อนมุมมองให้ผู้กำกับ เพื่อปีนกำแพง เอาชนะใจคนดู กับ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์

🎬🎬 นิยามคำว่า “โปรดิวเซอร์” 🎬🎬

ทางพี่วรรณ ให้นิยามเอาไว้อย่างนี้ว่า เป็น “ผู้สร้าง / ผู้ริเริ่ม / ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ”

หน้าที่หลักๆ ของการเป็น โปรดิวเซอร์ คือ การหางาน หาผู้กำกับ หานักแสดง เราเปรียบเสมือน คนที่ริเริ่มโปรเจ็คอะไรสักอย่าง มีไอเดีย เอาไอเดียไปขาย หาทีม เพื่อทำให้ไอเดียนั้นเกิดขึ้น ออกมาเป็นภาพยนตร์ให้คนดูได้ชมกัน

นอกเหนือจากนั้น จะต้องเป็นคนที่คิดเยอะมากๆ เพราะการที่จะทำภาพยนตร์สักเรื่อง สิ่งที่โปรดิวเซอร์จะคิดถึง คือ การจะทำอย่างไรให้คนดูรู้สึกคุ้ม และพร้อมจะจ่ายเงินเข้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ในโรง

————————————————————-

🦄 ผู้สร้าง ผู้ริเริ่ม 🦄

ตลอดชีวิตการเป็นโปรดิวเซอร์นั้นไม่ง่าย เพราะการที่จะทำให้องค์ประกอบทุกอย่างออกมาให้เกิดความคุ้มค่า เริ่มต้นจากการดูที่ต้องนั่งอ่านสคริป อ่านไปเรื่อยๆ และคอมเม้น ไอเดียของผู้กำกับ ปรับแก้ไขร่วมกับทีม

และยังต้องเป็นตัวกลางในการที่จะนำเสนอให้สตูดิโอเห็น และทำให้เขาสนใจที่จะลงทุน กับไอเดียของคุณ

พี่วรรณ บอกว่า มีหลายครั้งเลยที่เรามีไอเดีย บางไอเดียอยากทำ แต่ยังไม่มีคนที่ดูแล้วจะทำได้ ก็ต้องพับเก็บไอเดียนั้นไว้ก่อน

บางไอเดีย เกิดจาก ประสบการณ์ที่พบเจอ หรือความรู้สึกร่วมที่ก่อเกิดขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง 🏠 ลัดดาแลนด์ 🏠ในตอนแรก ตัวหนังจะเป็นการแก้อาถรรพ์ ไล่ผี แต่ก็มองว่าถ้าทำแบบนี้ คนดูน่าจะเบื่อ เพราช่วงนั้นในตลาดเรามีหนังประเภทนี้เยอะแล้ว เราต้องหาจุดร่วมใหม่ เลยได้ไอเดียจากการที่ผู้กำกับไปอ่านเจอบทความหนึ่ง พบว่า ถ้าผู้ชายอายุ 40 ไม่มีบ้าน ก็จะไม่มีบ้านแล้ว

หมายความว่าการสร้างบ้านของคนๆหนึ่ง มันแทบจะเป็นการลงทุนทั้งชีวิต บวกกับภาวะเศรษฐกิจ เรื่องที่ต้องย้ายบ้านออกจากหมู่บ้านที่แม้จะมีคดีเกิดขึ้นนี้ไป จึงแทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย อันนี้จึงเป็นโจทย์สำคัญของตัวละครในเรื่องนี้ และเป็นการเล่าเรื่องในฉบับที่เราได้เห็นกันในโรง

————————————————————–

ในการสร้างภาพยนตร์ออกมาสักหนึ่งเรื่อง ระยะเวลาก่อนที่จะเริ่มลงมือสร้าง บางครั้งก็นานไม่แพ้กัน บางทีแก้ไขบทกันก็อาจจะเป็นปี ต้องมีความอดทน และหาจุดร่วมของไอเดียเพื่อหาเส้นทางของหนัง

————————————————————–

💡💡💡 ไอเดีย จุดร่วม และความรู้สึกใหม่ 💡💡💡

จากที่เล่ามาจะเห็นได้ว่า การทำภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่การคิดบท ขึ้นมา หาทีม หานักแสดง ตัดต่อ แล้วออกฉาย มันมีรายละเอียดมากกว่านั้นมา และทุกอย่างนั้นล้วนเกิดจากความเข้าใจ มองภาพใหญ่ให้เห็นปลายทางของสิ่งที่เราจะนำเสนอ

หากแต่เมื่อถึงเวลาลงมือทำ ให้พรรณาและทำไปทีละขั้นตอน

กลับมายกตัวอย่าง จุดสำคัญของ ภาพยนตร์เรื่อง 🏠 ลัดดาแลนด์ 🏠 สุดท้ายแล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อจากประเด็นสำคัญในเรื่องนี้คือ ความรู้สึกที่มองว่า “บ้านคือ Home ไม่ใช่ House”

ในจุดนี้ ทำให้ความรู้สึกไปตรงใจกับใครหลายคนที่อาจจะเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาบ้างไม่มากก็น้อย

นี้เป็นตัวอย่างที่บอก คือ ให้เรามองที่ปลายทางว่าอยากให้คนดูเห็นอะไร เรื่องระหว่างทางมันจะมาเอง

และส่วนสำคัญของการทำภาพยนตร์ เราต้องสร้างความรู้สึกใหม่ ให้คิดเสมอว่าความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่เราสร้างนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราอยากจะมอบให้คนดู

————————————————————–

🍿🍿 ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน 🍿🍿

พี่วรรณ บอกเอาไว้ว่ากว่าที่ตนเองจะได้ทำทำหน้าที่ในจุดนี้ มันก็ผ่านมาหลายเรื่องราวมาก มุมมองที่อยากแชร์เลย คือ มองว่า อาชีพ กับ ทักษะ ไม่เหมือนกัน

บางทีคนเรา เรียนมาเหมือนกัน แต่อาจจะเก่งกันคนละแบบ บางคนเก่งเรื่องการเขียนบท บางคนเก่งเรื่องมุมกล้อง บางคนเด่นด้วยทักษาะด้านการตัดต่อ

มะนไม่สำคัญว่าคนแต่ละคน เรียนมาแล้วตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นผู้กำกับ อย่างที่ใฝ่ฝันอย่างเดียว มันเป็นไปได้ที่เราจะเป็นผู้เขียนบทที่เก่งที่สุดในโลก เป็นไปได้ที่จะเป็นนักตัดต่อที่เก่งที่สุดในโลก = specialist

หากอยากเป็นผู้กับกับ ความขยันและการฝึกฝนนั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เพราะผู้กำกับ จะต้องรู้ทุกทักษะ = Generalist

ไม่มีใครด้อยกว่าใคร เพราะทุกอาชีพล้วนมีคุณค่าในตนเอง

————————————————————–

📀📀 โปรดิวเซอร์เองก็มองภาพนี้ เช่นเดียวกัน 📀📀

มาถึงตรงนี้พี่วรรณก็ยกตัวอย่างให้เห็น มุมมองของการสร้างหนัง การแชร์ไอเดีย และการวิจารณ์บทภาพยนตร์ มันช่วยให้การปรับแก้ ลื่นไหล และสุดท้ายแล้วมันส่งผลดีออกมาต่อสิ่งที่เราคาดหวัง

ยกตัวอย่างเช่น หนังเรื่อง 👵 หลานม่า 👵 ในตอนแรกที่ออกมาเลย ก่อนที่จะปรับแก้ไข ไอเดียเราอยากจะเล่าเรื่องความเป็นอยู่ของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน แต่พอทำออกมาแล้วรู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ดูเป็นหนังจนเกินไป

ทีนี้เราก็มามองกันใหม่ คอมเม้น และช่วยกันปรับแก้ โดยใช้ความรู้สึกว่า “ทำหนังให้ความรู้สึกมันเรียบง่ายที่สุด แต่ส่งผลกระทบถึงคนดูมากที่สุด” ให้เหมือนล่องเรือ แล้วเจอยอดภูเขาน้ำแข็ง

ทีนี้ทุกคนก็มานั่งคุยกัน แล้วดูว่าประสบการณ์ ของแต่ละครอบครัวที่เคยเจอมีอะไรบ้าง อะไรเหมือนกันจดไว้ แล้วหยิบจับมาใช้ในภาพยนตร์ พอถึงจุดนี้ก็บอกได้ว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่อง เล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ แต่ถ้าคนดูใครก็ตามที่เคยผ่านประสบการณ์นี้ สุดท้ายแล้วมันจะ impact ต่อคนๆนั้น

————————————————————–

🎥🎞️ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ 🎥🎞️

ในตอนท้าย พี่วรรณได้บอกว่า การที่จะเป็นโปรดิวเซอร์นั้น จะต้องคิดให้เยอะๆ และพยายามตั้งคำถาม โดยเฉพาะคำถามที่ดีๆ เพราะการตั้งคำถามดี คำตอบที่ได้ก็จะดีเอง

เสริมเรื่องของการเติบโตในอาชีพ โปรดิวเซอร์ เส้นทางชีวิตของพี่วรรณ มันไม่เป็นอย่างที่คิด

ทางพี่วรรณเริ่มต้นอาชีพ หลังจากเรียนจบ เริ่มจากการไปสมัครงาน ทำหน้าที่เป็นผู้ทำเนื้อหาบันเทิงใน Web site มาก่อนทำอยู่ได้สักพัก แล้วค่อยเริ่มเขียนนักวิจารณ์หนัง

พอเราได้ทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีคนเห็น ได้ไปเขียนบทวิจารณ์ ในหนังสือ นิตยสารต่างๆ พอเริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวง ก็เริ่มได้เข้าวงการภาพยนตร์ที่ตรงเองใฝ่ฝัน

ในจุดนี้พี่วรรณ ต้องการจะบอกว่า ให้เราทุกคน เรียนรู้และฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แล้วหาทางแสดงศักยภาพออกมา เมื่อเราเตรียมพร้อม โอกาสจะมาเอง

และที่สำคัญ ให้เราพยายามเรียนรู้ผ่านการทำงานจริง

โดยเฉพาะอาชีพคนทำหนัง ให้คิดเสมอว่า “คนดูเป็นครูของเรา” ถ้าอยากเอาชนะใจคนอื่น อย่ามองแค่ว่าตนเองอยากทำอะไร “บางครั้งถูกใจเรา อาจจะไม่ถูกเขา” ลองลงมือทำ เพื่อให้รู้ว่าเราชอบจริงๆหรือไม่

เรียนรู้ “How” ไปพร้อมกับการเรียนรู้ “What”

ค้นหา 🔍 / ลงมือทำ ✅ / ฝึกฝน 📝

Comments

Leave a comment